ถูกปฏิเสธจากงานแล้วต้องทํายังไงต่อ?

การหางานว่ายากแล้ว แต่การที่จะจัดการกับความรู้สึกที่โดนปฏิเสธนั้นยากกว่ามากๆ อย่างไรก็ตาม มันสำคัญมากๆ ที่จะต้องไม่หมดกำลังใจจากการถูกปฏิเสธ ความเป็นจริงที่น่าเศร้าคือ การถูกปฏิเสธแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คุณคิด แต่อย่างไรก็ตามมันยังมีอีกหลายเหตุผลเลยที่คุณควรจะยังคงมีความหวังในตัวเองอยู่ เช่น รู้หรือไม่ว่า คนยุค millennials และ Gen Zs จะรวมกันเป็น 75% ของแรงงาน ในปี 2025 ถึงแม้ว่า การถูกปฏิเสธจะทำให้รู้สึกแย่ แต่มันก็อาจจะเป็นข้อดีเช่นกัน วันนี้เราจะมาพูดถึง วิธีและข้อแนะนำ ที่จะมาช่วยทุกคนก้าวผ่านการถูกปฏิเสธ

ถามหา Feedback

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือการขอ Feedback จากผู้รับสมัครหรือสัมภาษณ์ การทำแบบนี้ไม่เพียงจะแสดงบุคลิกของคุณ แต่ยังจะแสดงความตั้งใจในการพัฒนาของคุณด้วย นอกจาก Feedback จะช่วยให้คุณพัฒนาแล้ว มันยังจะช่วยให้คุณเห็นไอเดียว่า ข้อเสียของคุณคืออะไร และคุณจะหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้ยังไงบ้าง เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะขอ Feedback จากคนอื่นนะ

การทบทวนกับตัวเอง

การถูกปฏิเสธจากการสมัครงานให้โอกาสคุณในการได้ทบทวนตัวเอง และนี่ก็เป็นเวลาที่คุณจะได้เอา Feedback ที่ได้รับมาไปคิดและมองย้อนกลับไปว่าคุณผิดพลาดตรงไหน และนี่คือตัวอย่างคำถามที่คุณจะใช้เพื่อทบทวนตัวเองได้

  • อาชีพนี้ใช่อาชีพที่คุณอยากทำจริงๆ ใช่รึเปล่า
    • คุณได้วางแผนสำหรับอาชีพที่คุณจะทำแบบชัดเจนแล้วหรือยัง
  • คุณฝึกสัมภาษณ์เพียงพอและถูกต้องรึยัง
  • Resume ทำให้คนสัมภาษณ์ไม่ประทับใจหรือเปล่า
  • เราสามารถพัฒนา Profile ของเราให้ดีขึ้นได้หรือไม่

ลองทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการถูกปฏิเสธ จากการคิดอยู่กับตัวเองประมาณ 1 ชั่วโมง และใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาตัวเองนะครับ

รู้จักตัวเอง

ถ้าหากคุณรู้จักและตระหนักตัวเองตลอด คุณจะมีมุมมองต่ออการถูกปฏิเสธที่แตกต่างออกไป ถ้าหากคุณตระหนักถึงความเป็นตัวเอง จะทำให้คุณได้ฝึกฝน Mindset ที่จะช่วยคุณเปลี่ยนแปลงวิธีที่คุณมองและคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ การฝึก Mindset เหล่านี้ไม่เพียงแค่จะทำให้คุณก้าวข้ามการถูกปฏิเสธแต่มันจะช่วยคุณก้าวข้ามอุปสรรค์ต่างๆ ในอนาคตด้วย

 

ตอนนี้คุณคงกำลังสงสัยว่าแล้วคุณจะตระหนักเกี่ยวกับตัวเองและฝึก Mindset ได้ยังไง อย่างแรกเลย ถามตัวเองว่ามีอะไรที่ผิดพลาดไป และคุณจะต้องมองลึกลงไปเพื่อให้เห็นขั้นตอนแต่ละขั้นตอนของการสมัครงาน ถามคำถามกับตัวเองเช่น เราจะทำแตกต่างจากเดิมยังไงได้บ้าง สิ่งไหนที่คิดว่าไม่ควรทำบ้าง เมื่อตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่าลืมที่จะจด และโน้ตสถานการณ์ที่คุณทำผิดพลาดไว้ และทบทวนมันอีกที

แล้วคุณจะก้าวผ่านมันไปได้แน่ๆ

 

#อยู่กับพลังงานบวก

การมี Mindset ที่ถูกต้องและ รู้เสมอว่ามีฟ้าหลังฝนเสมอ จะช่วยให้คุณไปได้ไกลแน่ๆ อย่าเครียดไปที่จะถูกปฏิเสธเลย เพราะว่าจากการที่คุณมี Mindset และมุมมองแบบใหม่ๆ รวมถึงแผนในการพัฒนาตัวเองแล้ว คุณจะพร้อมที่จะเข้าไปหางานหรือสมัครงานแน่ๆ!

 

ในตลาดมีอาชีพอยู่อีกมากมาย

ในตอนเลือกงานคุณอาจจะกำหนดกรอบของตัวเองเยอะเกินไป และค้นหาอาชีพที่เฉพาะมากๆ ทั้งกับหน้าที่ อุตสาหกรรม หรือบริษัท ซึ่งนี่อาจจะทำให้มันมีความเสี่ยงสูงมากๆ ที่อาชีพหรือโอกาสที่ดีๆ จะหลุดรอดออกการขอบเขตการค้นหาของคุณได้ ดังนั้นลองคิดดูใหม่และขยายขอบเขตการค้นหาของคุณและเปิดกว้างเข้าไว้ สิ่งนี้สามารถเปิดมุมมองใหม่ๆ ที่อาจจะกระตุ้นความสนใจของคุณได้ ลองมองภาพให้กว้างขึ้น เพราะยังมีโอกาสอีกมากมายที่รอคุณอยู่

สร้างความยืดหยุ่นในตัวเอง

นี่คือจุดที่คุณสามารถหา ข้อคิดดีๆ ที่ช่วยให้คุณเดินหน้าต่อไปจากการถูกปฏิเสธได้  พยายามใช้โอกาสนี้เพื่อพัฒนาให้ตัวเองสามารถตอบสนองและผ่านเหตุการณ์ตึงเครียด ต่อให้เราไม่ได้สบายใจหรือมั่นใจเลยก็ตาม ซึ่งถ้าหากคุณฝึกทักษะนี้ได้ ในอนาคตคุณจะกลับมาขอบคุณเหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นกับเราแน่ๆ ดังนั้น พยายามต่อไปและอย่ายอมแพ้นะ!

 

แสดงความสามารถของคุณให้กับคนอื่น

ถ้าหากคุณถูกปฏิเสธมาหลายๆครั้ง อาจจะถึงเวลาที่คุณอาจจะต้องหยุดพักและคิดหาโอกาสใหม่ๆ ก่อนเช่น การฝึกงาน หรืองานอาสา ซึ่งไม่เพียงแค่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทแต่คุณยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถของตัวเองได้เช่นกัน และประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถแสดงว่าคุณสามารถช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรได้

การสร้างเครือข่าย

ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเปิดโหมดเข้าสังคมและออกไปคุยกับคนให้เยอะๆ หนึ่งในวิธีที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีคือ การค้นหาข้อมูลจากคนแต่ละคนในตำแหน่งหรือบริษัทที่คุณอยากจะสมัครเข้าไป และติดต่อไปคุยกับคนเหล่านี้เยอะๆ ถึงแม้ว่า สิ่งนี้จะนำไปสู่การถูกปฏิเสธได้แต่อย่ากลัวไป การทำความรู้จักคนเหล่านี้เป็นวิธีที่ดีมากๆ ที่จะสร้างและขยาย เครือข่ายคนรู้จักของคุณ แน่นอนว่าถ้าคุณมีเครือข่ายเหล่านี้เยอะๆ คุณสามารถที่จะขอคำแนะนำจากเค้าได้ ทีนี้เรารู้แล้วว่าการรู้จักคนมากขึ้นจะนำไปสู่โอกาสที่มากขึ้นดังนั้นอย่าอายไปที่จะทักไปหาคนเหล่านี้นะ

โฟกัสที่จุดแข็งของคุณ

ทุกๆ คนย่อมมีจุดแข็งและจุดอ่อน จุดอ่อนช่วยบอกจุดที่คุณสามารถพัฒนาได้ แต่อยากให้จำและอย่าลืมพลังพิเศษของคุณ หรือจุดแข็ง! และอธิบายให้ดีๆ ว่าจุดแข็งเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อบริษัท และตำแหน่งงานที่คุณจะสมัครได้อย่างไร แล้วก็อย่าลืมที่จะเล่าว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณ มันได้พัฒนาจุดแข็งของคุณยังไงบ้าง

สรุปแล้ว แน่นอนว่าการถูกปฏิเสธมันเจ็บปวดและยากที่จะรับทือกับมัน และมันเกิดขึ้นกับแทบจะทุกคนเลย เลยอยากให้จำไว้ว่ามันไม่ได้เกิดกับคุณแค่คนเดียวเท่านั้น เราหวังว่าสิ่งต่างๆ ที่เรามาแนะนำให้ฟังวันนี้จะเปลี่ยนมุมมองและวิธีการคิดของคุณต่อการปฏิเสธ และอย่ายอมแพ้ไปเพราะถึงแม้โอกาสนึงหายไปจากคุณก็จะมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามาเสมอ ถ้าหากคุณยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับวิธีการรับมือการถูกปฏิเสธแล้วหล่ะก็ อย่าได้กังวลไป พวกเรา Resubae พร้อมจะช่วยเหลือคุณอย่างแน่นอน อย่ากลัวหรือลังเลที่จะติดต่อมาคุยกับพวกเรานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:

More To Explore

CONTACT US

Let's get in touch!

info@resubae.com

Submission received! We’ll get back to you within 1-2 days.