หนังสือ Start-up of You ที่เขียนโดย Reid Hoffman หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn มีตอนนึงได้พูดถึงการเขียน Summary Statement บน LinkedIn แล้วน่าสนใจเลยอยากมาสรุปให้ฟัง ดังนี้ครับ
Reid บอกกับเราว่าการเขียน Summary Statement มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความโดดเด่น หรือในภาษาทางธุรกิจคือการบรรยายความสามารถในการแข่งขัน (Competitive Advantage) ซึ่งจะประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือ
1. สินทรัพย์ (Assets)
คือ สิ่งที่เรามีอยู่ ซึ่งแยกย่อยออกเป็น 2 แบบ คือ 1. Soft Assest เช่น ความรู้, ความสามารถ และ Connection
2. แรงบันดาลใจและคุณค่า (Aspirations & Values)
คือ คุณค่าของการทำงานของเรา เราทำงานนี้ไปเพื่ออะไร และเป้าหมายทางการทำงานของเราคืออะไร
3. ค่าทางการตลาด (Market Realities)
คือ สิ่งที่ภาคธุรกิจยอมจ่ายเงินให้ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาจะมีมูลค่าที่ไม่เท่ากัน เช่น ณ ตอนนี้เน้นไปในทางทักษะทางเทคโนโลยี เช่น การ Coding, Programming หรือ Analytics ซึ่งจะเห็นได้ว่าคนที่มีทักษะเหล่านี้จะมีเงินเดือนที่สูง
โดย Reid ยังเสริมด้วยว่าเราไม่จำเป็นต้องเก่งกว่าทุกคนบนโลก แต่ควรเก่งในระดับ Local ซึ่งไม่ได้หมายความแค่พื้นที่ภายในประเทศเท่านั้น แต่อาจหมายถึงอุตสาหกรรม หรือ Skill ที่เรามี เช่น เราต้องพยายามที่จะเป็น The greatest marketing executive in the world แต่ควรทีจะเป็น The best marketing executive in SMEs that compete in the health-care industry
ดังนั้น Reid จึงสร้างรูปแบบการเขียน LinkedIn Summary Statement ออกมาแบบนี้ครับ
“Because of my [Skill/experience/Strength], I can do [type of my professional work] better than [Specific type of other professionals in my industry].”
เพิ่มเติม:
Resubae เราแนะนำให้ใส่ Keyword ที่ตรงกับสายงานที่เราทำอยู่และเป็นทักษะที่เรามี เนื่องด้วยมันจะช่วยให้ Recruiter สามารถมองเห็นเราได้ง่าย ในเบิ้องต้นสามารถทำได้โดยการค้นหา ใน Google ด้วย อาชีพเรา + Keywords for LinkedIn ครับ เข่น ทำงานฝ่ายขาย ก็ค้นหาด้วย Sales keywords for LinkedIn